 |
Windows Vista Ready
|
 |
เตรียมเครื่องให้พร้อมรับระบบปฏิบัติการใหม่
เอาเป็นว่าเรามาว่ากันถึงเรื่องของระบบปฏิบัติการตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Windows Vista กันดีกว่าครับ เพราะสิ้นเดือนมกราคา 2550 นี้
จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเมืองไทยของเรากันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคำถามที่จะต้องตามมาติดๆ เลยก็คือ เรื่องของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน มันพอที่จะสามารถรองรับการทำงานอย่างเจ้า Windows Vista ได้หรือไมอย่างไร
หรือว่าต้องซื้อเครื่องใหม่ หรือว่าต้องเพิ่มอะไรเข้าไปบ้าง ซึ่งตรงนี้เราจะมาลองดูกันว่าสเปคขนาดไหนถึงจะรองรับกับเจ้าระบบ
ปฏิบัติการตัวใหม่อย่าง
Windows Vista |
ในส่วนของสเปคเครื่อง ไมโครซอฟก็ได้ระบุสเปคของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถจะใช้ระบบปฏิบัติการอย่าง Windows Vista ได้นั้นจะมีด้วยกัน 2 ระบบคือ
คอมพิวเตอร์ที่สามารถรัน Windows Vista ได้หรือ Capable PC ยกตัวอย่างเช่น โน้ตบุ๊ก ตะมีสติดเกอร์ติดมาด้วยแล้วระบุว่า Windows Vista Capable
และอีกระดับคือ
คอมพิวเตอร์ที่พร้อมรัน Windows Vista หรือ Premium Ready PC ยกตัวอย่างเช่น Windows Vista Ready ซึ่งจะเป็นสติกเกอร์ติดมาเหมือนกันสำหรับโน้ตบุ๊ก
สเปค Capable PC จะต้องมีโปรเซสเซอร์ความเร็วขึ้นต่ำ 800 MHz มีหน่วยความจำไม่น้อยกว่า 512MB กราฟฟิกการ์ดที่สนับสนุนการทำงานร่วมกับ
Direct X 9.0 จะต้องมีโปรเซสเซอร์ความเร็วขั้นต่ำ 1GHz พร้อมหน่วยความจำ 1GB กราฟฟิกการ์ดที่เข้ากันได้กับ DirectX 9.0 และจะต้องมีหน่วยความจำบนการ์ด
อย่างน้อย 1MB เพื่อที่จะได้สามารถแสดงผลที่ความละเอียดสูงสุดไม่เกิน 1,920 x 1,200 พิกเซล และต้องมีหน่วยความจำบนการ์ด 256MB หากว่าต้องการแสดงผล
ที่ความละเอียดมากกว่า
1,920 x 1,200 พิกเซล ขึ้นไปและในส่วนของฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ก็ต้องมีขนาด 40GB ขึ้นไป และมีพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 15GB
เรียกว่าสเปคเครื่องที่ทางไมโครซอฟได้ระบุนั้น ก็ไม่สูงจนเกินไปนัก แต่จะใช้งานได้จริงหรือไม่นั้นต้องรอพิสูจน์ เพราะเวลาลงโปรแกรมและแอพพลิชันต่างๆ
ลงไปด้วยแล้วเนี่ย สเปคที่ระบุมานั้นก็ไม่แน่ว่าจะเอาอยู่ ต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคนด้วยละครับว่าจะใช้กันหนักหนาสาหัสมากน้อยขนาดไหนแต่ด้วยราคา
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ณ ปัจจุบัน บางชิ้นบางตัวเพิ่มเงินนิดหน่อยก็ได้ของดีกว่าก็ต้องเลือกอันที่มันคุ้มค่าที่สุดไว้ก่อนละครับ
|
|
Processor (CPU)
มาดูกันที่ตัวโปรเซสเซอร์หรือเรียกสั้นๆ และพิมพ์ง่ายๆ ว่า ซีพียู กันก่อนเลยครับ
สำหรับตัวซีพียูเองนั้น Single Core
ก็เพียงพอสำหรับระบบปฏิบัติการอย่าง Windows Vista
แล้วละครับ ซึ่งอันนี้ก็ต้องดูรายละเอียดปลีกย่อยประกอบไปด้วย เพราะการใช้งานของแต่ละคน
มันต่างกันครับ ถ้าเป็นพวกที่เล่นแอพพลิเคชันที่กินสเปคเครื่องจำพวก IIIustrator, Photoshop,
PageMaker แล้วก็พวกโปรแกรมตัดต่อทั้งหลาย ไม่แนะนำให้ใช้ Single Core ครับ
ควรที่จะหันไปคบกับ Dual Core ไปเลยจะชัวร์กว่ากันเยอะ เพราะด้วยประสิทธภาพที่ได้กับราคา
ที่ต้องจ่ายไป Dual Core คุ้มค่ากว่ากันหลายขุมนัก อย่างเช่น Intel Pentium D820 2.8GHz
ราคา 3,820 บาท เท่านั้น ถ้าไปเทียบกับตัว Single Core อย่าง Intel Pentium4 541 3.2GHz
ราคา 3,470 บาท ถึงแม้ว่าราคาตัว
Dual Core จะแพงกว่า แต่ประสิทธิภาพในการทำงานที่ได้มา
มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
ข้ามมาดูทางฝั่งของเอเอ็มดีกันดูบ้างครับ ด้วยราคา Dual Core จากทางฝั่งของเอเอ็มดี
ดูแล้วมีราคาที่สูงกว่าคู่แข่งอยู่มากกว่าพอสมควรครับ อย่างเช่นตัวต่ำสุดในรุ่นอย่าง
AMD Athlon64 X2 3600+ (2.0GHz) กับราคา 5,020 บาท ซึ่งมี L2 cache เพียง 2x256MB
รวมแล้วมีเพียง
512MB เท่านั้น หรือว่าจะเป็นรุ่น AMD Athlon64 X2 3800+ (2.0GHz)
ราคา 6,300 บาท ซึ่งต่างกับรุ่น 3600+ ก็ตรงที่มี L2 cache 2x512MB
รวมแล้วก็ 1MB
แต่พอไปเทียบราคากับคู่แข่งดูแล้วมันไม่ค่อยสูสีกันสักเท่าไหร่เลย แต่ก็สุดแท้แต่ผู้ใช้งานละครับ
สาวกใครก็เลือกเอาครับของแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ |
Mainboard
สำหรับในส่วนของเมนบอร์ดหรือมาเธอร์บอดร์ด ก็ต้องมาดูกันละครับว่า ซิปเซต
ตัวไหนที่พอจะรับไหวที่บอกว่ารับไหวในที่นี่คือเรื่องของราคาครับเพราะซิปเซตนี่แหละ
ที่เป็นตัวหลักสำคัญที่จะบ่งบอกว่าเมนบอร์ดจะมีราคาสูงหรือต่ำ แล้วยิ่งเป็นซิปเซตรุ่นใหม่ๆ
ความสามารถรอบด้านราคาก็แพงเป็นเงาตามตัวด้วยเหมือนกัน แต่ก็ต้องดูด้วยครับว่า
เมื่อซื้อมาแล้วจำเป็นต้องใช้มันหรือไม่อย่างไร
ถ้าซื้อมาเพื่อโอ้อวดว่ามีครบทุกอย่าง
ถ้าบ้านมีตังค์ก็โอเคครับ เชิญตามสบาย แต่ถ้าเป็นแบบผมที่หาซื้อเมนบอร์ดเอาเฉพาะ
ที่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆ แล้วก็เพื่อเป็นการอัปเกรดในอนาคตบ้างเล็กน้อย
และก็ต้องคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปด้วยครับ
มาเริ่มกันที่ซิปเซตสำหรับเมนบอร์ด LGA775 กันเลยดีกว่า กลุ่มของเมนบอร์ด
ที่มีวางจำหน่ายในตลาดบ้านเราก็จะมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้น
ระดับกลาง และระดับสูง
แน่นอนเลยครับว่า ราคาก็ระดับสูงด้วยเช่นกัน แต่สำหรับงานนี้เราไม่จำเป็นจะต้องใช้
้ถึงระดับนั้นหรอกครับมันแพงไปซื้อมาใช้แล้วก็ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปสักเท่าไหร่
เราควรจะหันมาเล่นเมนบอร์ดระดับกลางที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติและ
ความสามารถพอตัวก็เพียงพอต่อการใช้งานของเราละครับ
อย่างเช่นเมนบอร์ดที่ใช้ซิปเซต Intel 965P หรือ Intel 945P แล้วก็ยังมี
nVIDIA nForce4 ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายไม่ว่าจะเป็น
ASUS P5-B ราคา 4,920 บาท
ใช้ซิปเซต Intel 965P หรือว่าจะเล่น nForce4 อย่าง ASUS P5ND2-SE ราคา 3,270 บาท
หรือจะเป็น
ASUS P5LD2-SE ราคา 3,410 บาท เมนบอร์ดกลุ่มนี้ล้วนแล้วแต่คุ้มค่าแก่การใช้งาน
ด้วยราคาที่ไม่เวอร์จนเกินไป บวกกับฟีเจอร์ต่างๆ
ที่มีมาให้ในแพ็กเกจด้วยแล้วจัดว่าโอเคเลยครับ
ส่วนเมนบอร์ด AM2 จากค่าย AMD ก็จะมีแต่ซิปเซตจาก nVIDIA เท่านั้นที่เห็นมีวางจำหน่ายหนาตา
ถึงแม้ว่า AMD จะรวมกับ ATI แล้วก็ตาม แต่เมนบอร์ดที่มีจำหน่ายในบ้านเราและสนับสนุนการใช้งาน
ซีพียูเอเอ็มดีได้เป็นอย่างดี ก็ยังคงหนีไม่พ้นซิป nForce4 หรือภายใต้รหัสใหม่ที่เป็น
nForce 500 Series
หรือ nForce 600 Series ซึ่งก็ต้องบอกตรงๆ เลยว่า อาจจะเป็นซิปที่สนับสนุนกับซีพียูเอเอ็มดีเป็นรุ่นสุดท้าย
เพราะเสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ส่วนบอร์ดที่น่าสนใจก็เห็นจะเป็น ASUS M2N4 SLI กับราคา
3,350 บาท หรือว่าจะใช้ ASUS M2N
กับราคา 3,180 บาท |
|
  |
Memory
หน่วยความจำที่จะต้องใช้สำหรับในงานนี้ต้องระดับ 512MB ขึ้นไปเท่านั้นและก็แนะนำว่าควรเป็นแบบ
Dual Chanel ด้วยถึงจะดีมากๆพราะมันจะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบโดยรวมได
้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องความเร็วของหน่วยความจำนั้นก็ต้องให้สัมพันธ์กับบัสของซีพียูด้วยเพราะมิเช่นนั้นแล้วการทำงาน
จะมีจุดด้อยอย่างที่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว อย่างเช่นว่าใช้ซีพียูที่มี FSB 800MHz ก็ควรที่จะใช้แรมที่มีความเร็ว
ขั้นต่ำที่ 533MHz และถ้าจะให้ดีก็ควรที่จะเป็น 667MHz หรือ 800MHz ไปเลยก็ได้แต่ราคาก็จะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
ของแรมด้วยเหมือนกันอย่างเช่น Kingston DDR II 533MHz 512 MB ราคา 1,740 บาท และถ้าเป็น 1GB
ราคา3,530 บาท ทีนี้ลองมาดูที่ความเร็ว 667MHz ดูครับ เห็นราคาแล้วจะงง เพราะ Kingston DDR II 667MHz 512 MB
ราคา 1,780 บาท และถ้าเป็น 1GB ราคา 3,580 บาท ทั้งสี่รุ่นเป็นราคาต่อแรมหนึ่งแถวครับคงไม่ต้องบอกนะครับว่า
ควรจะซื้อแรมที่ความเร็วเท่าไหร่ เพราะราคามันก็บ่งบอกได้ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว |
VGA Card (Graphics Card)
อย่างที่ทางไมโครซอฟท์ระบุไว้ครับ อย่างน้อย ๆ หน่วยความจำบนตัวการ์ดควรจะต้องขนาด 12MB
หรือ 256MB สำหรับท่านที่ต้องใช้งานกับความละเอียดสูง ๆ ซึ่งก็สอดคล้องกับการ์ดจอที่มีวางจำหน่ายอยู่
ณ ปัจจุบันเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วทางผู้ผลิตการ์ดจอในแต่ละยี่ห้อล้วนแล้วก็ได้ใส่หน่วยความจำมาให้
บนตัวการ์ดในระดับ 128MB หรือ 256MB และในรุ่งสูง ๆ ก็มีถึง 512MB และมากสุดถึง 670MB ทีนี้ลองมาดู
งบประมาณที่ควรจะใช้ในการซื้อการ์ดจอกันดูบ้างครับ ก็คงไม่มีทางเลือกมากนักเพราะ
มีเพียงแค่สองค่ายอย่าง ATi กับ nVIDIA รักใครชอบใครเชียร์ใครก็เลือกกันเองก็แล้วกันครับ
เราลองมาดูการ์ดจากทางฝั่งของ ATi กันก่อนก็แล้วกัน ตัวอย่างก็เช่นพวก รุ่นล่าง ๆ ราคาประหยัด ๆ ก็ต้อง
PowerColor Radeon X1300 128MB HM 512MB กับราคา 2,350 บาท ซึ่งรุ่นนี้จะมีแรมมาให้ 128MB
และมี HyperMemory ที่สามารถดึงหน่วยความจำมาจากบอร์ดได้อีก 512MB หรือว่าจะเล่นกับตัว
PowerColer
Radeon X1300 256MB ราคา 3,320 บาท หรือถ้าจะเอารุ่นสูงขึ้นมาอีกนิดก็ PowerColor
Radeon X1600 Pro
256MB DDR II ราคา 3,960 บาท หรือจะเอารุ่นใหม่ ๆ หน่อย ก็ต้อง PowerColor
Radeon X1650 Pro 256MB
DDR III ราคา 4,860 บาท
ทีนี้มาว่ากันในส่วนของ nVIDIA กันบ้าง เริ่มด้วยรุ่นเล็กอย่าง Inno3D GeForce 7100GS 128MB DDR II
ราคา 1,660 บาท และก็มีรุ่นแรม 256MB กับราคา 1,960 บาท และถ้าจะเอารุ่นสูงขึ้นมาอีกระดับอย่าง Inno3D
GeForce 7300GT 256MB DDR II ราคา 2,930 บาท ซึ่งรุ่นนี้จัดว่าเป็นรุ่นสุดคุ้ม เพราะสามารถเล่นเกมอย่าง
Need for Speed ได้อีกด้วย หรือจะเอาของใหม่ขึ้นมาหน่อย อย่าง Inno3D GeForce 7600GS 256MB DDR II
ราคา 3,960 บาท ก็ไม่มีปัญหาครับ |
    |
|
HDD ( Harddisk Drive)
สำหรับในส่วนของฮาร์ดดิสก์เองนั้น คงไม่ใช่ปัญหาสำหรับการใช้งานครับ เพราะปัจจุบันราคาฮาร์ดดิสก์
มันถูกเสียเหลือเกิน จะมีปัญหาก็ตรงที่อาจจะต้องทำการแบ่งพาร์ทิชันให้ไดรฟ์ C:\ มีขนาดที่มากขึ้น
กว่าแต่ก่อนที่เคยแบ่ง ๆ กันมา อย่างพวกที่ชอบแบ่งไดรฟ์ C:\ ไว้แค่ 20GB หรือ 30GB คงต้องลืม ๆ
มันไปได้เลย เพราะตัววินโดวส์วิสต้าเองต้องการพื้นที่ 15-20GB เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว
ถ้ามีฮาร์ดดิสก์ขนาด 80GB ก็แบ่ง 40-40 ไปเลยครับ เพราะเอาเข้าจริง ๆ ตัววินโดวส์เองมันมองเห็น
ฮาร์ดดิสก์ไม่เต็ม 80GB หรอกครับ
ขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์ถ้าเป็นงานธรรมดาทั่ว ๆ ไป เล่นเน็ต เล่น MSN ใช้งานพวกเวิร์ดหรือ
เอ็กซ์เซลก็ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 80GB ก็พอเพียงแล้วครับ ส่วนถ้าเป็นพวกบ้างานขึ้นมาหน่อย
ชอบลงโปรแกรมกับพวกแอพพิเคชั่นมากมายก็คงจะต้องขึ้นมาในระดับ 160GB แล้วอาจจะแบ่งแบบ
60-50-50 หรือจะแบ่ง 60-100 ไปเลยก็ได้
มาดูราคาฮาร์ดดิสก์ในตลาดกันดูบ้างดีกว่าครับ Seagate SATA II 80GB ราคาอยู่ที่ 1,840 บาท
และถ้าเป็น Seagate SATA II 160GB กับราคา 2,480 บาท หรือจะเอาลูกเดียวจบอย่าง
Seagate SATA II 250GB ราคา 3,130 บาท ซึ่งทั้งสามรุ่นมาพร้อมกับประกัน 5 ปี หรือ
ถ้าของใครยังเป็นแบบ IDE อยู่ก็ลองดูอย่างตัว Seagate 7,200rpm ATA100 80GB ราคา 1,820 บาท
หรือถ้าจะเล่น 160GB ATA100 7,200rpm Buffer 8MB ก็มีราคา 2,490 บาท |
Optical Drive ( CD/DVD Drive)
ในส่วนของไดรฟ์ DVD หรือว่า CD นั้น ราคาก็ไม่แพงแล้วครับก็ดูว่าคุณเองใช้งานมากน้อยขนาดไหน
แต่อยากให้แยกไดรฟ์ครับ เพื่อยืดอายุการใช้งาน อย่างไดรฟ์ DVD-ROM หนึ่งตัวกับไดรฟ์ CD-RW
อีกหนึ่งตัว หรือว่าจะเอา DVD-ROM หนึ่งตัวกับ DVD-RW อีกตัวก็ได้
ราคาค่าตัวของไดรฟ์ DVD-ROM ณ ปัจจุบันก็มีราคาตั้งแต ่500-700 บาท แล้วแต่ว่าจะเลือก
แบบมีกล่องหรือแบบไม่มีกล่อง แบบที่มีกล่องก็แพงกวาไม่ถึง 50 บาท ก็คิดเอาเองละกันครับ
และอย่างราคาตัวไดรฟ์ DVD-RW กับราคา 1,200-1,700 บาท ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อกับฟังก์ชัน
ที่มีมากับตัวไดรฟ์ละครับ
ตัวอย่างราคาไดรฟ์ก็อย่าง ASUS 16X LightScribe ราคา 1,410 บาท หรือถ้าเป็นตัวไม่มี
LightScribe ราคา 1,280 บาท หรือว่าจะเป็น Samsung 18X ราคา 1,290 บาท หรือจะเป็น
LG 18X H12L SuperMulti ราคา 1,680 บาท หรือจะเอายอดฮิต Lite-On 20X 20A1P ราคา 1,610 บาท |
|
|
Monitor (CRT/LCD)
มอนิเตอร์หรือว่าจอภาพก็จะมีให้เลือกอยู่สองส่วน คือแบบ CRT กับแบบ LCD ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับ
งบประมาณของแต่ละบุคคลไปครับ ว่าต้องการที่จะเล่นกับ CRT หรือว่า LCD ถ้ามีงบประมาณ
6,000-8,500 บาท ผมแนะนำให้เล่นจอ LCD ไปเลยครับ เพราะจอ LCD มันจะอยู่กับเราไปนานแสนนาน
ถึงแม้ว่าเราจะอัปเกรดเครื่องเป็นรุ่นใหม่ ให้เร็วและมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม แต่จอยังคงใช้งานไปได
้อีกนานครับ ถ้ามันไม่พังไปเสียก่อน
อย่างรุ่นจอ LCD ที่น่าสนใจก็ได้แก่ LG FLATRON L-1752S-SF ขนาด 17 นิ้ว กับราคา 6,490 บาท
หรือจะเอารุ่นที่ดีขึ้นมาอีกหน่อยก็ LG FLATRON L-1770HQ-BF ขนาด 17 นิ้วเช่นกันกับราคา 8,090 บาท
แต่ถ้าต้องการขนาดอย่าง 19 นิ้วก็ต้อง LG FLATRON L-1952SQ กับราคา 8,450 บาท
ลองมาดูคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Samsung กันดูบ้างครับ อย่าง Samsung SyncMaster 740N
ราคา 6,290 บาท หรือ Samsung SyncMaster 713MB ราคา 7,050 บาท ถ้าจะเอาขนาดใหญ่ขึ้น
มาอีกหน่อยก็ต้อง Samsung SyncMaster 940MB ราคา 8,390 บาท ซึ่งเป็นจอแบบ Wide Screen
|
ในส่วนของอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวพาวเวอร์ซัพพลาย เคส เมาส์ คีย์บอร์ด อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลไปครับ จะไปบังคับก็หาไม่
เพราะต่างคนต่างจิตต่างใจต่างกรรมต่างวาระ ชอบไม่เหมือนกันเอาเป็นว่าถ้าเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ติดมากับเคสก็เลือกที่มัน 400 วัตต์ หรือ 450 วัตต์
หรือมากกว่าได้ก็ดีครับ เพราะพาวเวอร์ซัพพลายพวกที่ติดมากับเคสพวกนี้ อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับดวงครับ ดวงดีก็เจอตัวดี ดวงไม่ดีใช้งานไป 5-6 เดือน
อาจเสียได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์ที่เราประกอบมาทั้งหมดมีมากน้อยเพียงใดด้วยครับ
ถ้ามีฮาร์ดดิสก์สองลูกขึ้นไป ไดรฟ์สองตัวขึ้นไป การ์ดจอต้องเสียบไฟเพิ่มด้วย อันนี้ต้องหาซื้อพาวเวอร์ซัพพลายที่มีสกุลรุนชาติหน่อยแล้วครับ
อย่างพวก Enermax, Thermaltake, Delux อะไรพวกนี้เนี่ยละครับ ก็ดูที่ระดับ 400 วัตต์ ขึ้นไปครับ เพื่อความชัวร์เผื่ออนาคตข้างหน้าซื้ออุปกรณ์อะไรมาใส่
เพิ่มจะได้ไม่ต้องกังวลกลัวว่าพาวเวอร์ซัพพลายจะจ่ายไฟไม่พอครับ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว
ต้องมานั่งซื้อพาวเวอร์ซัพพลายตัวใหม่ก็ไม่ไหว ตัวนึงไม่ใช่ถูก ๆ
ตัวเมาส์ก็ขอให้เป็นแบบออปติคอลไว้ก่อนเลยครับ แล้วก็เลือกที่มันพอดีมือ อย่าไปเอาไอ้พวกตัวเล็ก ๆ ใช้ไปเมื่อยไป แบบนั้นก็ไม่ไหวละครับ
แต่ถ้าชอบก็ตามสบายครับ ส่วนคีย์บอร์ดก็ต้องลองพิมพ์ดูครับ จะเอาแบบไร้สาย หรือแบบ USB ก็สุดแท้แต่เงินในกระเป๋าท่านก็แล้วกันครับ
หรือจะดูพวกมียี่ห้อหน่อยที่ขายเป็นแพ็กเกจพร้อมกันเลยทั้งเมาส์และคีย์บอร์ดก็โอเคครับ เข้าชุดกันดี ราคาไม่ถึงพันบาทก็มี หรือจะเอาอย่างดีก็เกินพัน
หรือครึ่งหมื่นก็มี แล้วแต่ทุนทรัพย์ของแต่ละท่านครับ
สรุปส่งท้าย
เอาละครับ มาถึงตรงนี้หลาย ๆ ท่านก็อาจจะได้ประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ ข้างต้นไม่มาก็นอ้ยละครับ หรืออาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยก็อาจเป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นการซื่อเครื่องใหม่
เพื่อมาเล่น Windows Vista เลย ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ เพราะด้วยอุปกรณ์ ณ ปัจจุบันที่จำหน่ายกันอยู่มันสามารถที่จะรองรับได้อย่างสบายอยู่แล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ
ท่านที่มีเครื่องอยู่แล้วและต้องการที่จะลองของใหม่อย่าง Windows Vista ซึ่งบางเครื่องสเปคก็อาจจะรันได้อย่างสบาย ๆ หรือบางรุ่นบางเครื่องก็ไม่ไหว
ก็ลองแบบนี้ก็แล้วกันครับ ถ้าเป็นในสำนักงานก็ลองเอาแรมจากเครื่องอื่นมาเพิ่มให้กับเครื่องของตัวที่จะลง Window Vista ดูก่อนว่าเป็นเช่นไร พอจะไปไหวไหม
ถ้าไหวใช้งานได้ไม่มีปัญหา ก็หาซื้อแรมมาทำการอัปเกรดเครื่องกันก่อนเลยครับ
ส่วนเครื่องที่ใช้ VGA on Board อันนี้ ไม่ค่อยแน่ใจครับว่าจะสามารถใช้งานได้หรือเปล่า แต่ถ้าตัว VGA on Board รองรับ Direct X 9.0 แล้วสามารถแชร์หน่วยความจำได้ถึง
128MB ก็อาจจะใช้งานได้ครับ แต่แรมบนเครื่องต้องไม่น้อยกว่า 512MB เมื่อถูกแชร์แรมไปแล้วนะครับ เพราะมิเช่นนั้นแล้ว เครื่องท่านอาจจะแฮงก์ หรือช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งอันนี้ก็ต้องลองของจริงกันก่อนละครับว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร เอาไว้ถ้า Windows Vista ออกมาเมื่อไหร่ แล้วจะนำมาลองแล้วมาเล่าให้ฟังกันอีกรอบก็แล้วกันครับ
สำหรับท่านทึ่ต้องการสเปคก็ลองเอาจากตารางที่ลองจัดไว้ให้ดูเป็นแนวทางไปก่อนก็แล้วกันครับ อันไหนมันเวอร์ไปก็ปรับลดได้ตามแต่ลักษณะของการใช้งาน
และทุนทรัพย์ของแต่ละท่านครับ |
 |
|
|